อันดับทะเลไทยที่สวยที่สุด 10 อันดับ
อันดับ 1 :อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน น้ำใสจนนึกว่าเรือลอยได้ ^^ ถ้าไปเที่ยวแนะนำ 3 วัน 2 คืนครับ จุใจแน่นอน ทั้งดำน้ำ และ วิวสวยๆ จนไม่อยากกลับเลยละ
เกาะสิมิลัน
เกาะสิมิลัน
........................................................
อันดับ 2 : อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์
ที่ที่ดำน้ำตื้นที่สวยที่สุดในประเทศ ไม่เคยคิดว่า จะดำลงไปใต้ทะเล
แล้วพบกับ ประการังเขากวาง ยาว สุดลูกหูลูกตา สวยจับใจ ถ้าไปเที่ยวแนะนำ 3
วัน 2 คืนครับ เพราะมีจุดดำน้ำเยอะรวมทั้งวิวสวยงามมากคับ
อ่าวช่องขาด หมู่เกาะสุรินทร์
........................................................
อันดับ 3 : เกาะตาชัย
ตอนนี้ได้จัดให้อยู่เป็นเกาะที่ 10 ในหมู่เกาะสิมิลันเรียบร้อยแล้วครับ
เพิ่งเปิดเกาะได้ สองปีนิดๆ หาดทรายปุยนุ่น ทะเลใสเครียร์ เหมาะกับไป 1
day trip มากๆ ครับ ชิวดีจริงๆ
........................................................
อันดับ 4 : อุทยานแห่งชาติตะรุเตา
( อาดัง ราวี หลีเป้ะ และเกาะเล็กๆ อีก 51 เกาะ)
ไปที่เดียวเที่ยวได้ทุกเกาะ อยู่ใกล้ๆ กันหมดเลยครับ
อยากจะอยู่ซักอาทิตย์นึง รูปข้างล่างนี้ เช่าเรือหางยาวเที่ยวได้ทั้งวัน
คุ้มยิ่งกว่าคุ้มครับ
เกาะรอกลอย
เกาะกระ เป็นเกาะเล็กๆ ที่อยู่ ติดๆ หลีเป้ะเลย
หาดทรายขาว เกาะราวี
เกาะหลีเป้ะ
เกาะไข่ จะแวะเวลาไป ตะรุเตาครับ
ตะรุเตา ท่าเรือ ตะโล้ะวาว ทางเข้าไปคุก ครับ
........................................................
อันดับ 5 : อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตนธารา - หมู่เกาะพีพี
ที่
เที่ยวในตำนาน ยุคบุคเบิกเลยก็ว่าได้ครับ
ตอนนี้กลายเป็นเมืองไปแล้วเสียความเป็นธรรมชาติไปเยอะครับ แต่ความสวยงาม
ก็ยังคงอยู่แต่ก็ไม่สวยเท่าเดิม ที่เที่ยวที่มีคนรู้จักมากมายก็คือ
อ่าวมาหยา อ่าวปิเละ
จุดชมวิว เกาะพีพี
อ่าวปิเละ
........................................................
อันดับ 6 : เกาะราชา อยู่ใกล้ภูเก็ตนิดเดียวครับ เหมาะกับการเที่ยวชิวๆมากๆ มีชายหาดเล็กๆ รอบเกาะ หลายที่ เลยครับ
........................................................
อันดับ 7 : onedaytrip ทะเลแหวก เกาะห้อง ไร่เลย์ ไปวันเดียวก็เที่ยวได้ทุกที่ครับ ทะเลกระบี นำสีเขียวใส สวยมั่ก
ทะเลแหวก
เกาะห้อง
หาดไร่เลย์
........................................................
อันดับ 8 : เกาะไข่นอก เกาะเล็กๆ เป็นรูปไข่เดินได้รอบเกาะภายใน 20 นาที 555 เป็นเกาะแวะ เวลาทัวร์เค้าไปเกาะอื่นๆ เช่นพีพี
........................................................
อันดับ 9 : เกาะหมาก มาทางอ่าวไทยกันบ้างครับ ฝั่งนี้ผมไม่ค่อยได้ไปเท่าไหร่ เลยมี น้อยครับ ไม่นานจะต้องเก็บให้หมดให้ได้
........................................................
อันดับ 10 : เกาะกูด อ่าวไทย
อันยอง EXO
วันพุธที่ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557
10 สถานที่ท่องเที่ยวที่โรแมนติกที่สุดในโลก
10 สถานที่ท่องเที่ยวโรแมนติกที่สุดในโลก
ในโลกใบนี้มีสถานที่สวยงามอยู่มากมาย
แต่จะมีซักกี่สถานที่จะที่จะโรแมนติกมากที่สุด วันนี้เลยจะมาขอจัดอันดับ 10 สถานที่ท่องเที่ยวโรแมนติกที่สุดในโลก จะมีที่ไหน
ประเทศใดบ้าง ชมกันเลยค่ะ
อันดับที่ 10. Colmar ประเทศฝรั่งเศส
เมือง Colmar ถูกจัดให้เป็นเมืองที่มีความโรแมนติก
เมืองหนึ่ง ของประเทศฝรั่งเศส และเป็นสถานที่ที่คู่รัก มักจะให้คำสัญญาในความรักระหว่างกันและกัน
สิ่งที่น่าประทับใจในเมือง Colmar ก็คือ ไร่องุ่นจำนวนมาก เคียงคู่ไปกับอุตสาหกรรมการผลิตไวน์ชั้นเยี่ยม
และบรรยากาศ ที่สวยงาม สถาปัตยกรรมของอาคารบ้านเรือนเก่าแก่ ช่วยทำให้เมือง Colmar
เป็นอีกหนึ่งในสถานที่โรแมนติกในฝัน
อันดับที่ 9. Paris ประเทศฝรั่งเศส
เมืองปารีส มีสมญานามว่า “สวรรค์แห่งความโรแมนติก” (Heaven of Romantic) ดังที่ สถานที่แห่งนี้ เหมาะเป็นอย่างยิ่งที่คุณและคนรัก จะสารภาพ “รักนิรันดร์” ระหว่างกันและกัน สิ่งที่น่าประทับใจในเมืองปารีส อย่างเช่น พิพิธภัณฑ์ Le Louvre (พิพิธภัณฑ์ ที่มีผู้เข้าเยี่ยมชมมากที่สุดในโลก) หอไอเฟล ,โรงแรม Disney Land Resort ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในยุโรป พิพิธภัณฑ์ศิลปะ Centre Pompidou และสถานที่สวยงามอื่น ๆ อีกมากมาย การไปเที่ยว กับคนรักที่ปารีส หากจัดสรรเวลาให้ดีก็จะคุ้มค่ามาก และสถานที่แห่งนี้จะเก็บความโรแมนติก อยู่ในใจของคุณไปอีกนานแสนนาน
อันดับที่ 8.Venice ประเทศอิตาลี
หากคุณกำลังมองหาสถานที่ ที่จะเอ่ยกับคนรักว่า เขาหรือเธอ เป็นคนที่มีค่ามากที่สุดในชีวิต Venice ก็คือ คำตอบสุดท้ายสำหรับคุณ! เมือง Venice มีชื่อเสียงโด่งดังในด้าน สุดยอดสถาปัตยกรรม และยังมีหลายสถานที่โรแมนติก เช่น สะพานเก่าแก่ Ponte dei Sospiri, จตุรัส Piazza San Marco ที่ได้รับสมณานามว่า “ห้องจิตรกรรมของยุโรป” (The – drawing room of Europe) และคลองในตัวเมือง “Canale Grande” ทั้งหมดนี้จะสร้าง ความโรแมนติก ระดับหรูหรา ให้กับคนรักและตัวคุณ
อันดับที่ 7.
Schloss Neuschwanstein ประเทศเยอรมันนี
อันดับที่ 6. Vienna
ประเทศออสเตรีย
เมือง Vienna ในประเทศออสเตรีย
เป็นอีกสถานที่ที่มีคู่รักจากทั่วทุกมุมของโลก แวะเวียนมาเยี่ยมชมความสวยงาม สิ่งที่ขึ้นชื่อของเมืองนี้คือ
สุดยอดสถาปัตยกรรม และสุดยอดผลงานเพลง, ศิลปะ
และพิพิธภัณฑ์ศิลปะ ที่มีชื่อเสียงเป็นอันดับต้น ๆ ของโลก พระราชวัง Schoenbrunn,
พระราชวัง Belvedere, พระราชวัง The
Hofburg Imperial และพิพิธภัณฑ์นักจิตวิทยาผู้โด่งดัง Sigmund
Freud
อันดับที่ 5. Monte Carlo ประเทศโมนาโค
เมือง Monte Carlo ยังเป็นอีกหนึ่งสถานที่โรแมนติก
ที่คุณจะได้สื่อความรัก ไปยังคนรักของคุณ เมืองนี้ตั้งอยู่ที่ตีนของเทือกเขาแอลป์
และเป็น สถานที่ที่มีเรื่องราวของความรัก ก่อกำเนิดขึ้นมากมาย สิ่งที่น่าสนใจของเมือง
Monte Carlo คือบ่อนคาสิโนเลื่องชื่อ (Monte Carlo
Casino) พิพิธภัณธ์ทางทะเล, พิพิธภัณฑ์ประจำชาติ
และพระราชวัง Prince
อันดับที่ 4. Prague สาธารณรัฐเช็ก
อีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจ สำหรับสถานที่โรแมนติก ก็คือ เมือง Prague ของสาธารณรัฐเช็ก สถานที่แห่งนี้ขึ้นชื่อเรื่องอาหารอร่อย วัฒนธรรม และปราสาทเก่าแก่ ผู้คนที่มีมิตรไมตรี และสุภาพอ่อนโยน เมือง Prague เป็นสถานที่เกิดของนักดนตรีระดับโลก อย่าง Mozart และมีชื่อเสียง ในเรื่องของทางเดินอันสวยงามในเมือง ที่คู่รักสามารถใช้เวลาเดินเล่นด้วยกัน
อันดับที่ 3. New
York ประเทศสหรัฐอเมริกา
เมือง New York เหมาะสำหรับคู่รัก ที่กำลังมองหาสถานที่ที่จะใช้ ช่วงเวลาแห่งความรัก และความโรแมนติก ในหลากหลายรูปแบบ ร้านอาหาร และร้านค้าจำนวนมาก และสถานที่น่าสนใจอื่น ๆ เช่น สถานีรถไฟ Grand Central Terminal, อนุสาวรีย์เทพีสันติภาพ และสวนหย่อมขนาดใหญ่ Central Park (มีกิจกรรมคอนเสิร์ต, มีลานสเก็ตน้ำแข็ง)
อันดับที่ 2. Cairo ประเทศอียิปต์
เมือง Cario ก็ได้รับการกล่าวขานว่า เป็นสวรรค์บนโลกเช่นเดียวกัน (โดยเฉพาะสำหรับคู่รัก) ความงดงามและมนต์เสน่ห์ที่อยู่ในตัวเมือง คือแรงดึงดูด ให้คู่รักเดินทางมาใช้เวลาท่องเที่ยวที่นี่ด้วยกัน และปิรามิด ก็คือสิ่งที่พิเศษที่สุด ท่ามกลางความสวยงามในตัวเมือง
และอันดับที่ 1 ก็คือ
Mauritius Island มหาสมุทรอินเดีย
สถานที่แห่งนี้ ได้รับการกล่าวขานว่า “ปลายทางสุดท้าย ที่โรแมนติกมากที่สุด” (Ultimate Romantic
Destination) เกาะ Mauritius มีชื่อเสียง
อย่างมาก ในหมู่คู่รักที่จะมาท่องเที่ยว หรือคู่รักที่จะมาฮันนีมูน
ต้นปาล์มมากมายที่เคลื่อนที่พริ้วไหว ไปตามสายลม บรรยากาศที่สวยงามตามธรรมชาติ
แนวหินปะการัง และท้องทะเลสีฟ้า เป็นส่วนหนึ่งในอีกหลาย ๆ สิ่ง ที่ทำให้สถานที่แห่งนี้สวยงามจนยากที่จะลืมเลือน
แหล่งท่องเที่ยวในจังหวัดศรีสะเกษ
แหล่งท่องเที่ยวในจังหวัดศรีสะเกษ
แดนปราสาทขอม หอมกระเทียมดี
มีสวนสมเด็จ เขตดงลำดวน
หลากล้วนวัฒนธรรม เลิศล้ำสามัคคี
มีสวนสมเด็จ เขตดงลำดวน
หลากล้วนวัฒนธรรม เลิศล้ำสามัคคี
ศรีสะเกษ เดิมเรียกว่า เมืองขุขันธ์ นักโบราณคดีสันนิษฐานว่า
น่าจะเป็นเมืองมาแต่สมัยขอม ปรากฏหลายแห่งเล่ากันว่า เมืองขุขันธ์เดิม เรียกว่า
ศรีนครลำดวน ตั้งอยู่ที่บ้านปราสาทสี่เหลี่ยมดงลำดวน ตำบลลำดวนใหญ่
กิ่งอำเภอวังหิน ในปัจจุบัน ถูกยกขึ้นเป็นเมืองเมื่อ พ.ศ. 2302 สมัยกรุงศรีอยุธยา มีหลวงแก้วสุวรรณ ซึ่งได้รับบรรดาศักดิ์เป็น
พระไกรภักดี เป็นเจ้าเมืององค์แรก
ล่วงถึงรัชสมัยรัชการที่ 5 ได้ย้ายเมืองขุขันธ์ มาอยู่ที่เมืองศรีสะเกษ
(ที่บ้านเก่า ตำบลเมืองเหนือ อำเภอเมืองในปัจจุบัน) แต่ยังคงใช้ชื่อว่า
เมืองขุขันธ์ จนถึง พ.ศ. 2481 จึงเปลี่ยนเป็นจังหวัดศรีสะเกษตั้งแต่นั้นมา
การเดินทาง
ทางรถยนต์ ใช้ทางหลวงหมายเลข
1 (ถนนพหลโยธิน)
ถึงจังหวัดสระบุรี จึงเลี้ยวขวาเข้าทางหลวงหมายเลข 2 (ถนนมิตรภาพ)
เข้าเส้นทางโชคชัย-เดชอุดม (ทางหลวงหมายเลข 24 ) ผ่านบุรีรัมย์
สุรินทร์ แล้วแยกซ้ายเข้าทางหลวงหมายเลข 220 เข้าตัวเมืองศรีสะเกษ
รวมระยะทางประมาณ 571 กิโลเมตร
รถโดยสารประจำทาง จากกรุงเทพฯ
มีรถโดยสารธรรมดา และรถโดยสารประจำทางปรับอากาศ ออกจากสถานีขนส่งสายตะวันออกเฉียงเหนือ
ทุกวัน ใช้เวลาเดินทางประมาณ 8 ชั่วโมง ติดต่อขอทราบรายละเอียดได้ที่ โทร. 02-9363660, 02-9360657
รถไฟ จากสถานีกรุงเทพฯ
(หัวลำโพง) มีรถธรรมดา, รถเร็ว และรถด่วน
สายกรุงเทพฯ-ศรีสะเกษ ระยะทาง 515 กิโลเมตร
นอกจากนั้น ยังมีรถโดยสารจากตัวอำเภอเมืองศรีสะเกษ ไปยังอำเภอต่างๆ
ทุกอำเภอ และจังหวัดใกล้เคียงด้วย การเดินทางในตัวเมือง มีรถสามล้อรับจ้างอยู่ทั่วไป
1.
ปราสาทวัดสระกำแพงใหญ่
ปราสาทวัดสระกำแพงใหญ่ ตั้ง อยู่ทีวัดสระกำแพงใหญ่ อำเภออุทุมพรพิสัย ริมทางหลวงหมายเลข 226 ห่างจากจังหวัด 26 กม. ห่างจากตัวอำเภอ 2 กม. เป็นปราสาทขอมขนาดใหญ่ที่สุดของจังหวัด มีลักษณะเป็นปรางค์ 3 องค์ บนฐานเดียวกันในแนวทางทิศเหนือใต้ หันหน้าไปทางทิศตะวันออก ปรางค์องค์กลางคือ ปรางค์ประธาน ก่อด้วยหินทรายมีอิฐแซมบางส่วน ปรางค์อีก 2 องค์ เป็นปรางค์อิฐ มีส่วนประกอบตกแต่งที่เป็นหินทราย เช่น ทับหลัง กรอบหน้าบัน และกรอบเสาประตู ด้านหลังปรางค์องค์ทิศใต้ มีปรางค์ก่ออิฐ 1 องค์ ด้านหน้ามีวิหารก่ออิฐ 2 หลัง ล้อมรอบด้วยระเบียงคด ก่อด้วยศิลาแลงและหินทราย มีโคปุระหรือประตูซุ้มทั้งสี่ทิศ ที่ปรางค์ประธานมีทับหลังจำหลัก ภาพพระอินทร์ทรงช้างบนแท่นเหนือหน้ากาล ส่วนที่วิหารก่ออิฐซึ่งอยู่ทางด้านทิศเหนือ มีทับหลังสลักภาพพระนารายณ์บรรทมสินธุ์ อยู่เหนือพระยาอนันตนาคราช ท่ามกลางเกษียรสมุทร และที่วิหารก่ออิฐ ทางด้านทิศใต้มีทับหลังรูปพระอิศวรกับพระอุมา ประทับนั่งเหนือโคนนทิ ปัจจุบัน ปราสาทแห่งนี้ อยู่ในความดูแลของกองโบราณคดี กรมศิลปากร และได้มีการขุดค้นพบโบราณวัตถุจำนวนมาก เช่น ทับหลังจำหลักภาพศิวะนาฏราช, พระกฤษณะยกเขาโควรรธนะ และยังพบพระพุทธรูปนาคปรก พระพุทธรูปปางสมาธิ พระพิมพ์ดินเผา ฯลฯ
จากหลักฐานลวดลายที่ปรากฎบนหน้าบัน
ทับหลัง และโบราณวัตถุต่างๆ โดยเฉพาะจารึกที่หลืบประตูปราสาทสระกำแพงใหญ่
สรุปได้ว่า
ปราสาทแห่งนี้สร้างขึ้นในราวพุทธศตวรรษที่
16
ตรงกับศิลปะขอมแบบปาปวน
เพื่อเป็ นเทวาลัยถวายแด่พระศิวะ
และเมื่อประมาณพุทธศตวรรษที่ 18 ได้มีการเปลี่ยนแปลงเป็นวัดในพุทธศาสนาลัทธิมหายาน
2.
ปราสาทห้วยทับทัน (ปราสาทบ้านปราสาท)
|
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)